‘ประกันสังคม’ ฟังเสียงเรียกร้อง ศึกษาเปิดทางใช้ ‘เงินชราภาพ’ ย ามเดื อดร้อน

นางพิศมัย นิธิไพบูลย์ รองเลขาธิการ สำนักงานประกันสังคม ในฐานะโฆษกสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยถึงมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโ ค วิ ด สำหรับนายจ้างและลู กจ้างในระบบกองทุนประกันสังคม ผ่านรายการสถานีประกันสังคม เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา

สำหรับกรณีที่มีผู้ประกันตนเรียกร้อง ขอนำเงินสมทบกรณีชราภาพจากกองทุนประกันสังคมออกมาใช้ชั่ วคราว เมื่อเกิ ดความเดื อดร้ อนนั้น นางพิศมัยเปิดเผยว่า สำนักงานฯ รับฟัง

ข้อเรียกร้องดังกล่าวมาจากหลายช่องทางและกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้

ทั้งนี้ การเปิดให้นำเงินสมทบชราภาพออกมาใช้ชั่ วคราว ต้องไปแก้ไขกฎหมายในระดับ พ.ร.บ. ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร โดยสำนักงานฯ กำลังพิจาณาเปรียบเทียบกับประเทศต่าง ที่ใช้วิธีเก็บเงินสมทบและจ่ายสิทธิประโยชน์คล้าย กับประเทศไทยว่า จะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ประเทศต้นแบบมาหลายประเทศ

 

สำหรับแนวทางที่เป็นไปได้คือ อาจปล่อยเงินกู้ดอกเ บี้ยต่ำให้ผู้ประกันตนผ่านธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กองทุนประกันสังคมกำหนด แนวทางดังกล่าว

คล้ายกับกรณีปัจจุบัน ซึ่งกองทุนฯ เปิดให้นายจ้างที่ประสบปัญหาไ ว รั ส โ ค วิ ด กู้เงินดอกเบี้ ยต่ำในอัตรา 3% โดยมีนายจ้างยื่นสมัครเข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก

กรณีที่ผู้ประกันตน หน่วยงาน และองค์กรต่าง เสนอเข้ามา อย า กจะนำเงินกรณีชราภาพของตัวเองไปใช้ เราอยู่ระหว่างการศึกษา ขณะเดียวกันก็ต้องดูด้วยว่า กฎหมายจะแก้ไขได้เร็วขนาดไหน

อย่างไรก็ตาม เงินสมทบกรณี ชราภาพ ของกองทุน ประกันสังคม มีวัตถุประสงค์ให้นำเงินไปใช้ย ามชราภาพจริง โดยผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบไ ม่ถึง 180 เดือน ก็จะได้รับเป็นเงินก้อนบำเหน็จ และถ้าจ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือนขึ้นไป ก็จะได้รับบำนาญ เพื่อนำไปใช้ย ามชรา จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เพsาะฉะนั้uการนำเงินชราภาพมาใช้ตอนนี้ ก็เป็นการทำให้เงินให้ผู้ประกันตนหายไปจากระบบ เมื่อถึงเวลาต้องใช้เงินอาจจะลดน้อยถอยลง แต่สำนักงานฯ ก็พร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย

ประกันสังคม 3 ประเภทได้เงิน ชราภาพ

สำหรับยอดรวมผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมทั่วประเทศล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 รวมอยู่ที่ 16,407,409 ราย แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้

มาตรา 33 จำนวน 11.3 ล้านคน

มาตรา 33 คือ ลู กจ้างที่ทำงานในสถานประกอบการที่มีลู กจ้างตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์และอายุไ ม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ มีผู้ประกันตนในระบบจำนวนมากที่สุด 11,295,514 คน

ผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองใน 7 กรณี ดังนี้ เ จ็บป่ วย เสี ยชีวิต ว่างงาน คลอดบุตร ทุพพลภาพ ชราภาพ และสงเคร าะห์บุตร

มาตรา 39 จำนวน 7 ล้านคน

มาตรา 39 คือ เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาก่อน และนำส่งเงินสมทบมาแล้วไ ม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยออกจากงานไ ม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลาออกจากงาน มีผู้ประกันตนในระบบจำนวน 1,737,744 คน

โดยผู้ประกันตนมาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครอง 6 กรณี ดังนี้ เ จ็บป่ วย เสี ยชีวิต ทุพพลภาพ คลอดบุตร สงเคร าะห์บุตร และ ชราภาพ

มาตรา 40 จำนวน 4 ล้านคน

มาตรา 40 คือ บุคคลทั่วไปที่มีอายุไ ม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ทำอาชีพอิสระ ไ ม่มีนายจ้าง มีผู้ประกันตนในระบบจำนวน 3,374,151 คน

โดยผู้ประกันคนมาตรา 40 จะได้รับความคุ้มครอง 3-4-5 ขึ้นอยู่กับทางเลือก ดังนี้ เงินทดแทนการข า ดรายได้ ทุพพลภาพ ชราภาพ (บำเหน็จ) สงเคร าะห์ และเสี ยชีวิต

อายุเกิน 60 ปี สมัครประกันสังคม ม.40 ได้

นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมเพิ่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ แรงงานอิสระหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่มีอายุเกิน 60 ปี แต่ไ ม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ สามารถสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ได้แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป

สำหรับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ประกันสังคมที่ผู้สูงวัยสามารถเลือกได้ทุกทางเลือก ปัจจุบันมี 3 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 จ่าย 70 บาท

ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาท

ทางเลือกที่ 3 จ่าย 300 บาท

“ผู้สูงวัยที่มีอายุใกล้ครบ 65 ปีบริบูรณ์ ควรรีบสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 และจ่ายเงินสมทบทันที เพราะหากอายุเกิน 65 ปีบริบูรณ์แล้ว จะไ ม่สามารถสมัครได้”

ที่มา THE BANGKOK INSIGHT

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *