เลิกกั๊ก แม่ชมพู่ชี้เป้าคนพิรุธ ญาติลงมติให้ตำรวจจับได้เลย

จากกรณีการหายตัวของ เด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพัก ห มู ่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 63 จนกระทั่งเจออยู่กลางป่าบนภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้าน 4-5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เร่งเก็บหลักฐานหาตัวคนทำ ซึ่งคาดว่าเป็นคนในห มู ่บ้าน

ล่าสุดวันที่ 6 ก.ค.63 ทีมข่าวสอบถาม นางสมควร หลาบโพธิ์ ย ายของย้องชมพู่ เปิดเผยว่า ประมาณ 2 วันก่อน ตนเองได้คุยกับลูก รวมทั้งแม่ของน้องชมพู่ ซึ่งมาคุยกับตน แต่ไม่มีป้าแต๋นอยู่ด้วย โดยมาพูดกับตนเ รื่ อ งลุงพล ว่าตำรวจอาจมุ่งเป้าและออกหมายจับ มาบอกตนได้รู้ตัว เตรียมตัวเตรียมใจก่อน ส่วนตัวก็ไม่รู้จะเตรียมใจอะไรได้ไหม แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้เตรียมใจ แต่หากย้อนไปวันที่ตำรวจมาค้นบ้านลุงพล ตนเองก็ยังใจสั่นอยู่

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

อย่างไรก็ตาม ตนเองยังคงยืนยันว่าไม่ปักใจเชื่อว่าลุงพลก่อเหตุ มั่นใจว่าลูกเขยไม่ได้ก่อเหตุ เป็นไปไม่ได้ ลุงพลรักหลานมาก ประกอบกับเวลาที่ลุงพลใช้ชีวิต ช่วงเกิ ดเหตุน้องชมพู่หาย ลุงพลก็อยู่ที่สวนย าง ซึ่งตนอยู่ตรงข้ามสวนย างลุงพล ตนเองยังเห็นลุงพล จึงไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปทำร้ า ยเด็ก

ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่มกับลุงพลขณะนั้น แต่ตนก็นาได้ยินเสียงลุงพล ตะโกนชักชวนนางนลิน (แม่ถอน) ว่าจะไปส่งพระ ซึ่งแม่ถอนก็ตกลงรับปากจะไปด้วย จากนั้นก็ยังเห็นทั้งหมดช่วยกันหยอดน้ำกรดในสวนย าง ซึ่งแม่น้องชมพู่ก็ยังอยู่ เท่าที่จำได้น่าจะช่วงเวลา 09.00 น. แต่ตนไม่แน่ใจเวลา

นางสมควร ระบุอีกว่า แบ บนี้ตนก็มานั่งคิดว่าลุงพล จะไปเอาเวลาไหนไปก่อเหตุ ไม่มีเวลาไหนที่จะไปก่อเหตุได้ โดยเทียบว่า ทีมข่าวเดินขึ้นเขาไปที่พบศ พ ใช้เวลา 1.30 ชั่ วโมง แล้วลุงพลจะเอาเวลาไหนไปก่อเหตุ ส่วนที่แม่น้องชมพู่สงสัยว่าเวลาไปรับพระทำไมถึงนาน ซึ่งตนเองไม่ทราบช่วงเวลาไปส่งพระ แต่เท่าที่คุยก็รู้ว่าลุงพล มาอาบน้ำ ป้าแต๋นอาบน้ำ ใครอาบก่อนไม่แน่ใจ จากนั้นลุงพลก็ไปรับพระ ฟังแล้วก็อย า กรู้ว่าลุงพลจะเอาเวลาไหนแบกน้องชมพู่ ไปขึ้นภูเหล็กไฟ

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

โดยเฉพาะช่วงที่น้องสะดิ้ง บอกว่า ช่วงเวลา 08.50-09.01 น. เป็นเวลาที่น้องชมพู่หายตัวไป ซึ่งลุงพลอยู่สวนย าง จึงทำให้ตนไม่เชื่อว่าลุงพลจะไปก่อเหตุได้

ถึงแม้ว่าลูก มาเต ือน ตนเองก็ไม่เชื่อว่าลุงพลจะก่อเหตุ ลุงพลทำหลานคนนี้ไม่ได้แน่นอน เพราะลุงพลรักหลาน เวลาเจอกันก็ให้ขี่คอ ถึงแม้ลุงพลไม่ใช่ลูกแท้ แต่ตนก็รักเหมือนลูก ลุงพลมาเป็นครอบครัวแล้ว วันหนึ่งมีคนจะมาทำร้ า ย มาคร่าลุงพล คนเป็นแม่ก็คงต้องไปช่วยอยู่ดี หากลุงพลก่อเหตุจริง ตนจะเสียใจมาก แต่คิด แล้วก็ยังไม่คิดว่าลุงพลจะทำได้ นิ สั ยลุงพลตนเองรู้จัก เขาเป็นคนขี่โวยวาย แต่ไม่นานก็หาย จะโกรธก็ไม่เกิน 5 วัน ก็ดีกันแล้ว ไม่มีเ รื่ อ งເເค้นอะไรกัน

ส่วนที่แม่น้องชมพู่ สงสัยว่าทำไมลุงพลไม่เข้าไปบ้านชมพู่เลย ตั้งแต่เผาศ พ น้องเสร็จ ซึ่งย ายก็ร้อง โอ้ยยย ขึ้นมาแล้วบอกว่า ลุงพลจะเข้ามาได้อย่างไร ในเมื่อพี่น้องมองแบ บนี้ อีกทั้งพี่น้องก็เคยพูดเ รื่ อ งการออกสื่อ ว่าให้ลดการออกสื่อ หลายครั้งก็ไปหาหมอธรรม หมอดู ทำให้ครอบครัวน้องชมพู่ อาจจะไม่พอใจ แต่ก็ไม่เคยคุยกัน เป็นเพียงสายตาที่มอง กัน ถ้าเป็นตนก็คงไม่เข้าไป ที่ผ่านมาลุงพลไม่เคยมีปรึกษาอะไรตน จะมีป้าแต๋น ลูกสาวคนโตที่มาคุย ก็มาเล่าเ รื่ อ งต่าง ใหฟัง

ส่วนที่ครอบครัวชมพู่สงสัยลุงพล ตนคิดว่าอาจจะเป็นเพราะไม่ได้คุยกัน และแม่ชมพู่เชื่อตำรวจมากไปหรือไม่ ตนก็อย า กให้เชื่อคนในครอบครัว ตนอย า กให้มานั่งคุยกัน ยังคิดเลยว่าจะเอาทุกฝ่ายมาคุยกัน เพราะลูก ไม่เคยทะเลาะกันแบ บนี้ คำว่า เชื่อตำรวจมากเกินไป ตนอย า กจะสื่อว่า ต่างฝ่ายไม่ได้คุยกัน เมื่อตำรวจสงสัยแบบนั้น แบ บนี้ ก็ไม่เคยปรึกษากัน แต่กลับมาคุยกันเองเป็นกลุ่ม แม้แต่การมานั่งคุยกัน เวลาตำรวจให้ข้อมูลมาว่าสงสัย แต่ก็ไม่เคยคุยกัน แล้วก็เชื่อไปตามตำรวจ

ตั้งแต่ตำรวจ นักข่าวเข้ามา ก็กลายเป็นไม่ค่อยคุยกัน คนจะมองว่าทำไมป้าแต๋น ลุงพล ไม่ยอมไปบ้านน้องชมพู่ ก็อย่างที่บอกไปว่าใครจะเข้าไปเมื่อถูกมองเช่นนี้ ตอนนี้ตนน่าจะเป็นคนกลางในการเอา 2 ฝ่ายมาคุยกัน ก็อย า กบอกว่าให้ 2 ฝ่ายมาคุยกัน มาพูดกันเหมือนแต่ก่อน

นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา แม่น้องชมพู่ กล่าวว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตนและสามี ไปพูดคุย ปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติม ถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวคนร้ า ย ระหว่างที่ทีมข่าวสอบถามเ รื่ อ งการพุ่งเป้าคนร้ า ยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พุ่งเป้าไปที่ลุงพล หรือนายไชยพล วิภา ลุงของน้องชมพู่นั้น แม่น้องชมพู่ก็พูดขึ้นมาเป็นเสียงหนักแน่นว่า ตนจะไม่ปิดกั้นความรู้สึกอีกแล้ว ตนขอตอบตรง เลยว่าตนก็สงสัยลุงพลเหมือนกัน

เ รื่ อ งนี้ตนเก็บมานานแล้ว ตนเก็บความรู้สึกมาตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะหลังจากเผาศ พ น้องชมพู่ที่ป่าช้าท้ายห มู ่บ้าน ลุงพลก็ไม่เคยมาเหยียบที่บ้านตนอีกเลย ไม่ใช่เพราะที่ตนให้ข่าวว่าตนเคืองลุงพล เพราะเขาชอบไปหาพวกร่ า งทรง หรือหมอธรรม ตนสังเกตว่าตั้งแต่ออกจากป่าช้า วันที่เผาน้องชมพู่แล้ว ลงพลไม่เคยมาที่บ้านตนเองเลย จะเห็นมีครั้งหนึ่งที่มาก็วันที่หมอปลามาทำพิธีที่บ้านตนวันนั้น แต่วันนั้นตนก็ไม่ได้อยู่บ้าน จึงไม่ได้พูดคุยกัน

โดยตนไม่ได้รู้สึกลำบากใจที่จะให้สัมภาษณ์ว่า ตนสงสัยลุงพล เพราะตนก็ทำใจนานแล้ว แต่ตนก็ ยังไม่มีหลักฐานจะเอาผิด ที่ลุงพลอ้างว่าไม่อย า กมาที่บ้านตนเพราะแขกมาเยอะ ตนก็อย า กให้ย้อนมองดูน้อง คนอื่น ด้วย ก็ยังไปมาหาที่บ้านอยู่เลย มาแทบทุกวันด้วยซ้ำ นางสมควร แม่ของตนมีลูกอยู่ 5 คน ก็มี ลุงพลกับป้าแต๋น ที่ไม่กล้ามาที่บ้านของตน

ตนจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่ลุงพลบอกว่า ตนไม่ให้กำลังใจเขา ตนก็อย า กบอกว่าลูกของตนเองเสี ย ชีວิต เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายมาให้กำลังใจ ช่วงแรก ที่ตำรวจเรียกสอบลุงพลบ่อย ป้าแต๋นก็บ่นว่าไม่มีเงิน ตนก็ยังควักเงินให้ป้าแต๋น 1,000 บาท อยู่ที่ สภ.กกตูม และมีช่วงหนึ่งมีข่าวลือว่า ตนเป็นชู้กับลุงพล ตอนนั้นน้องโอม ลูกชายของลุงพลไม่สบาย ตนก็ยังเคยฝากน้าต่ายเอาเงินจำนวน 2,000 บาท ไปช่วยเหลือเขา ตนก็อย า กให้ไปสอบถามลุงพลด้วย ว่าเ รื่ อ งนี้จริงไหม ทั้ง ที่ตนเป็นฝ่ายสูญเสีย แทนที่เขาจะต้องมาปลอบใจตนเอง

ในส่วนของคดี ถ้าคนร้ า ยเป็นลุงพลจริง ตนก็สงสัยเขาเ รื่ อ งช่วงเวลา ไทม์ไลน์วันที่ 11 พ.ค.63 ที่น้องชมพู่หายตัวไป เพราะช่วงเวลาที่ลุงพลไปรับพระ ทำไมถึงใช้เวลานานจัง ลุงพลไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ตนก็อย า กให้เขาตอบตนประเด็นนี้ด้วย

ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว

ทั้งนี้ตนยอมรับว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ค.63 ได้ไปพูดกับย ายสมควร แม่ของตนแแบบเปิดใจคุยกันว่า แม่หนูอย า กบอกแม่ว่า หนูสงสัยลุงพล อย า กให้ลุงพล มาชี้แจงว่าเวลาที่เขาไปรับพระ ทำไมมันนานจัง แต่ตนไม่ได้ไปบอกนางสมควร ให้เตรียมใจยอมรับ หากลุงพลเป็นคนร้ า ยแต่อย่างใด ตนยังมีข้อมูลมากกว่านี้ แต่ที่เหลือตนขอเก็บข้อมูลไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม ช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เรียกตนและสามีไปสอบแล้ว ส่วนใหญ่จะเรียกไปปรึกษา ในส่วนของการติดตามตัวคนร้ า ย และตนก็ยังเชื่อมั่นในฐานะพย านหลักฐาน และการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขอบคุณ ทุบโต๊ะข่าว

By admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *